เหล็กรูปพรรณกับการนำไปใช้งานก่อสร้าง

เหล็กรูปพรรณที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการรองรับน้ำหนักให้กับโครงสร้าง

 

เหล็กรูปพรรณ

          "เหล็ก" เป็นหนึ่งในวัสดุที่อยู่เคียงคู่กับวงการก่อสร้างมาอย่างช้านาน ซึ่งจะสังเกตได้ว่าไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้างที่มีขนาดเล็ก ๆ อย่างเช่น งานโครงสร้างหลังคา คาน เสาไฟ หรือเสาส่งสัญญาณต่าง ๆ ตลอดจนงานก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ อย่างเช่น การสร้างตอม่อสะพาน เขื่อนกั้นน้ำ หรือตึกระฟ้า ล้วนแล้วแต่จะต้องมีการนำเอาเหล็กเส้นและรูปพรรณประเภทต่าง ๆ อย่างเช่น เหล็กเพลาขาว เหล็กกล่อง เหล็กแบน เหล็กไอบีม หรือเหล็กตัวซี มาใช้ในการช่วยเสริมความแข็งแรง ทนทาน และช่วยเพิ่มความสามารถในการรองรับน้ำหนักให้กับโครงสร้างและคอนกรีตด้วยกันทั้งสิ้น

เพราะฉะนั้นแล้ว การเลือกนำเอาเหล็กรูปพรรณหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น เหล็กฉาก เหล็กกล่อง เหล็กแบน รวมถึงเหล็กตัวซี หรือเหล็กไอบีม มาใช้งานให้เหมาะสมกับประเภทของงานก่อสร้างและงานโครงสร้าง ควบคู่ไปกับการเลือกใช้งานเหล็กรูปพรรณที่ได้รับการรับรองคุณภาพด้วยมาตรฐานอุตสาหกรรม JIS, DIN หรือ มอก. จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การงานก่อสร้างดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยในวันนี้เราจึงอยากจะขอพาทุกคนไปลองสำรวจดูพร้อม ๆ กันเลยว่า เหล็กรูปพรรณหลากหลายรูปแบบที่มีวางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดนั้นจะเหมาะสำหรับการนำมาใช้ในงานก่อสร้างประเภทใดบ้าง ?

ยกตัวอย่าง 6 เหล็กรูปพรรณ ใช้งานอย่างไรให้เหมาะกับประเภทของงานก่อสร้าง

เหล็กแบน (Flat Bar)

          เหล็กแบน หรือเหล็กพืด เหล็กเส้นแบน เหล็กแบนรีด เป็นเหล็กรูปพรรณที่มีลักษณะแบนยาวเหมือนกับรูปทรงของสี่เหลี่ยมผืนผ้า และมีความหนาที่เท่ากันตลอดทั้งเส้น ซึ่งด้วยลักษณะดังกล่าวนี้เองส่งผลให้เหล็กแบนจึงสามารถทนทานต่อแรงยืดและแรงพับได้เป็นอย่างดี และสามารถนำมาดัดแปลงขึ้นรูปเพื่อให้เหมาะสมกับการนำมาใช้ในงานโครงสร้างต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการนำเอาเหล็กแบนมาใช้ทำเป็นปลอกรัดหัวเสาเข็ม เหล็กดัดประตู เหล็กดัดหน้าต่าง ราวบันได รางน้ำฝน ตลอดจนใช้ทำเป็นฝาท่อและฝาตะแกรง เป็นต้น

เหล็กกล่อง (Steel Tube)

          เหล็กกล่อง ถือได้ว่าเป็นเหล็กรูปพรรณรีดร้อนอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานร่วมกับงานโครงสร้างตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางหลากหลายประเภท เนื่องด้วยรูปทรงที่มีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่เป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้เหล็กกล่องเป็นเหล็กรูปพรรณที่มีน้ำหนักเบาแต่ทว่ามีความแข็งแรงทนทานเป็นอย่างดี ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเหล็กกล่อง จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ ตามลักษณะหน้าตัดของตัวเหล็กกล่อง ได้แก่

เหล็กแป๊บแบน หรือเหล็กกล่องแบน (Rectangular Steel Tube) เป็นเหล็กรูปพรรณที่สามารถนำมาดัดโค้งขึ้นรูปเพื่อการนำมาประยุกต์ใช้งานร่วมกับงานโครงสร้าง เพื่อทดแทนการใช้ไม้ คอนกรีต รวมถึงเหล็กรูปพรรณประเภทอื่น ๆ ได้หลากหลายรูปแบบทั้งงานโครงสร้างภายในและงานโครงสร้างภายนอกที่ไม่ต้องรองรับน้ำหนักมาก ยกตัวอย่างเช่น นั่งร้าน เสา คาน โครงสร้างประตู หรือโครงสร้างหลังคา เป็นต้น

เหล็กแป๊บโปร่ง หรือเหล็กกล่องสี่เหลี่ยม (Square Steel Tube) เป็นเหล็กกล่องอีกประเภทหนึ่งที่มีขนาดหน้าตัดเท่ากันทั้งหมด 4 ด้าน จึงทำให้เหล็กแป๊บโปร่งหรือเหล็กกล่องสี่เหลี่ยมเหมาะสำหรับการนำมาประยุกต์ใช้งานเพื่อขึ้นรูปเป็นชั้นวางของและเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินต่าง ๆ รวมไปถึงการนำมาใช้ในงานโครงสร้าง อย่างเช่น โครงสร้างหลังคา ประตู หน้าต่าง วงกบ แปพื้น และรั้วบ้าน เป็นต้น

เหล็กแผ่น และเหล็กแผ่นตัด (Steel Plate)

          เหล็กแผ่น หรือเหล็กแผ่นดำ เป็นเหล็กรูปพรรณ รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้ขึ้นรูปเป็นวัสดุตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ รวมถึงได้รับความนิยมในการนำมาใช้ปูในงานพื้น หรืองานโครงสร้างทั่วไป อย่างเช่น ตะแกรง ราวบันได รั้ว โครงระเบียง เป็นต้น เนื่องจากเหล็กแผ่นเป็นเหล็กรูปพรรณที่มีพื้นผิวเรียบ มีความแข็งแรงทนทานเป็นอย่างดี รวมถึงยังมีขนาดและความหนาให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลายตามความต้องการ จึงทำให้สามารถนำมาประยุกต์ใช้งานร่วมกับงานก่อสร้างและงานโครงสร้างต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เหล็กโดเวล (Dowel Bar)

          เหล็กโดเวล หรือเหล็กเดือย คือ เหล็กรูปพรรณเส้นกลมที่ถูกนำมาตัดให้สั้นลงเป็นท่อน ๆ เพื่อให้สามารถช่วยต้านทานแรงดึงหรือแรงเฉือนที่เกิดขึ้นในระหว่างที่มีการนำเอาเหล็กโดเวลมาใช้ในงานที่เกี่ยวข้องกับการวางโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเหล็กโดเวลสามารถช่วยกระจายน้ำหนักของคอนกรีดจึงทำให้สามารถช่วยป้องกันไม่ให้แผ่นคอนกรีตเกิดรอยต่อหรือรอยแตกในระหว่างที่มีการก่อสร้างจนเกิดการทรุดตัวลงได้ ส่งผลให้เหล็กโดเวลจึงได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานโครงสร้างเพื่อช่วยในการยึดเสาเข็มกับฐานราก การยึดเสาหรือพื้นกับคาน ตลอดจนการยึดบันไดกับผนังรับแรง เป็นต้น

เหล็กฉาก (Angle Bar)

          เหล็กฉาก หรือเหล็กมุม เป็นเหล็กรูปพรรณรีดร้อนที่มีลักษณะหน้าตัดเป็นรูปตัวแอล (L) ที่ตั้งฉากกัน 90 องศา และมีขนาดที่ยาวเท่ากันทั้งสองด้าน โดยลักษณะดังกล่าวนี้เองถือเป็นลักษณะสำคัญที่ทำให้เหล็กฉากเป็นเหล็กรูปพรรณที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง ซึ่งจะสามารถช่วยส่งเสริมให้โครงสร้างต่าง ๆ ที่ขึ้นรูปมาจากเหล็กฉากนั้นมีเสถียรภาพ และไม่งอ ไม่โค้ง รวมถึงไม่หักในระหว่างที่มีการใช้งานได้ ส่งผลให้เหล็กฉากจึงเหมาะสำหรับการนำมาใช้ในงานโครงสร้างหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น เสาส่งไฟฟ้าแรงสูง เสาสัญญาณ โครงป้ายโฆษณา โครงสร้างโกดังเก็บของ ตลอดจนเฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่ง อย่างเช่น ชั้นวางของ โต๊ะ เตียง เก้าอี้ และม้านั่ง เป็นต้น

เหล็กไอบีม (I-Beam)

          เหล็กไอบีม เป็นเหล็กรูปพรรณรีดร้อนที่มีลักษณะหน้าตัดเป็นรูปตัวไอใหญ่ (I) ซึ่งลักษณะของขีดหรือปีก (Flanges) ทั้งสองด้านที่ยื่นออกมาจากบริเวณแกนกลาง (Web) ของเหล็กไอบีมนี้เอง คือ สิ่งสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้เหล็กไอบีมมีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถรองรับน้ำหนัก แรงกด และแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้เหล็กไอบีมเป็นเหล็กรูปพรรณที่มีความเหมาะสมในการนำมาใช้งานเพื่อขึ้นรูปเป็นโครงสร้างเสา หลังคา รางเครน อาคารขนาดใหญ่ รวมไปถึงโครงสร้างอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

          สำหรับบริษัท ผู้รับเหมา และช่างก่อสร้างที่กำลังมองหาเหล็กเส้นและเหล็กรูปพรรณประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เหล็กเพลาขาว เหล็กแบน เหล็กกล่อง เหล็กแผ่น เหล็กโดเวล เหล็กฉาก เหล็กไอบีม หรือเหล็กตัวซีมาใช้งาน บริษัท ไวต้า ธานี จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายเหล็กเส้น และเหล็กรูปพรรณประเภทต่าง ๆ ที่ได้มาตรฐาน และได้รับการยอมรับจากเหล่าวิศวกร สถาปนิก และผู้รับเหมาในวงการงานก่อสร้าง โดยเรามีศูนย์บริการลูกค้าอย่างทั่วถึง ทั้งภาคกลางและตะวันออก พร้อมบริการขนส่งที่รวดเร็ว เพื่อช่วยให้ลูกค้าทุกท่านได้รับความพึงพอใจในการบริการและสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับสินค้าที่มีมาตรฐานอย่างดีที่สุด เพราะรากฐานที่ดีต้องมาจากวัสดุที่ดี หากเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับประเภทของงาน โครงสร้างต่าง ๆ และการใช้งาน ก็จะช่วยให้สามารถใช้งานเหล็กเส้น และเหล็กรูปพรรณประเภทต่าง ๆ ได้อย่างยาวนาน เต็มประสิทธิภาพ และคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด


สนใจสั่งซื้อเหล็กแบน ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท ไวต้า ธานี จำกัด
Tel : 094-4122337 (สายด่วน)
E-mail : vita.steel18@gmail.com
LINE : https://line.me/ti/p/%40edo4950u
Facebook : บจก.ไวต้า ธานี